แต่เดิมนั้นท่านเป็นพระเขมรบวชเรียนวิชาอาคมมาแต่เมืองกัมพูชาและชอบที่จะเดินธุดงค์เป็นกิจวัตรมีความเชี่ยวชาญทางด้านว่านยาสมุนไพรและการลบผงตรีนิสิงเหมากเพราะเป็นผงที่มีคุณวิเศษที่คนโบราณบอกว่าฝอยท่วมหลังช้างทั้งคงกระพันเมตตาค้าขายและกันคุณไสย์แลภูตผีปีศาจดีนัก
เมื่อท่านเดินธุดงค์มานมัสการรูปหล่อท่านเจ้าประคุณสมเด็จพุฒาจารย์โต
และพบหลวงปู่นาคตอนนั้นหลวงปู่นาคท่านดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดระฆังอยู่นั้นท่านได้เห็นอุปนิสัยและวัตรปฎิบัติรวมไปถึงวิชาอาคมของหลวงปู่หินเป็นที่น่านับถือท่านจึงชวนให้อยู่จำพรรษาที่วัดระฆัง
ท่านหลวงปู่หินจึงเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาวัดระฆังให้เจริญรุ่งเรืองในกาลต่อมาในการบูรณะพระอุโบสถนั้นท่านได้พบผงเก่าของพระปิลันทร์จำนวนหนึ่งท่านจึงได้นำผงที่พบนี้มาผสมกับผงตรีนิสิงเหที่ท่านลบเก็บเอาไว้นำมาสร้างพระขึ้นมาเพื่อแจกให้กับคนที่มาทำบุญตั้งแต่ปี2482-2515โดยมีชิ้นส่วนที่แตกหักของพระวัดสามปลื้มและพระกรุที่ชำรุดแตกหักอีกหลายวัดที่ช่วงนั้นได้มีคำสั่งจากหน่วยราชการให้เปิดกรุขึ้นมาเพื่อนำไปแจกทหารที่กำลังจะไปสงครามและที่ขาดไม่ได้คือพระสมเด็จวัดระฆังและบางขุนพรหมที่แตกหักท่านได้นำมาเป็นส่วนผสมในพระเครื่องของท่านด้วยที่ท่านเห็นอยู่นีเป็นพระยุคแรกประมาณปี2482-2495 โดยประมาณ องค์ที่ท่านเห็นอยู่นี่เรียกว่าพิมพ์ปรกโพธิ์เป็นเป็นพระยุคต้นที่เนื้อหามันส์มากองค์นี้บรรจุกรุสภาพเดิมๆเนื้อสุดจัดจ้านมีส่วนผสมของชิ้นส่วนแตกหักของพระวัดสามปลื้มและวัดระฆังจำนวนมาก
พระของหลวงปู่หินมีทั้งบรรจุกรุและไม่บรรจุกรุที่บรรจุกรุส่วนใหญ่มักไม่ค่อยสวยแต่องค์นี้สวยฟอร์มดีสุดๆ
เป็นพิมพ์มาตรฐานที่มีอยู่ในหนังสือประวัติหลวงปู่หินที่ท่านพระศรีสุทธิโสภณ(เที่ยง)แห่งวัดระฆังได้รวบรวมข้อมูลและรูปถ่ายทำแจกในงานฌาปนกิจของหลวงปู่หินเมื่อ3ต.ค2521จึงชัดเจน พระหลวงปู่หินมวลสารดี
เจตนาบริสุทธิ์เพราะแจกให้กับผู้ที่มาช่วยงานวัดและปลุกเสกด้วยเกจิอาจารย์ที่ทรงคุณวิเศษสำคัญที่สุดคือราคาแค่หลักพันต้นเมื่อเทียบกับคุณค่าในองด์พระแล้วถือว่าถูกมากครับท่านเหมาะสำหรับผู้ที่ชอบของดีราคาถูก |