พระรูปเหมือนหลวงปู่โต๊ะวัดประดู่ฉิมพลีรุ่น 108 ปี ออกวัดถ้ำสิงห์ พระรูปเหมือนหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี โค๊ดชัดเจนพร้อมกล่องเดิม รุ่น108 ปี ออกวัดถ้ำสิงห์โตทอง จ.ราชบุรี เนื้อทองเหลืองสภาพสวยเดิมๆ หาสากครับ รีบเก็บก่อนแพงครับพระราชสังวราภิมณฑ์หรือหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพฯ ท่านเป็นชาวสมุทรสงคราม เกิดเมื่อปี พ.ศ.2430 เมื่ออายุได้ 13 ปี บิดามารดาได้เสียชีวิตไปหมด พระภิกษุแก้ว ได้นำท่านมาฝากไว้กับพระอธิการสุข เจ้าอาวาสวัดประดู่ฉิมพลี พออายุย่างเข้า 17 ปี ก็ได้ทำการบรรพชาเป็นสามเณร ต่อมาอายุครบ 20 ปีก็ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ พัทธสีมาวัดประดู่ฉิมพลี เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2450 มีพระครูสมณธรรมสมาธาน (แสง)วัดปากน้ำภาษีเจริญ เป็นพระอุปัชฌาย์ เมื่ออุปสมบทแล้วท่านก็ได้ตั้งใจศึกษาและปฏิบัติตามหลักธรรมด้วยความวิริยะอุตสาหะ จนกระทั่งได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดประดู่ฉิมพลี เมื่อมีอายุเพียง 26 ปี พรรษา 6 หลวงปู่โต๊ะชอบจาริกธุดงค์ไปจามสถานที่ต่างๆ ท่านได้ศึกษาวิชากับหลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ,หลวงพ่อเนียม วัดน้อย,หลวงพ่อโหน่ง วัดคลองมะดัน,หลวงพ่อพุ่ม วัดบางโคล่,หลวงพ่อแฉ่ง วัดบางพัง และอีกหลายพระอาจารย์ที่มีชื่อเสียงในยุคนั้น ปี พ.ศ. 2516 ท่านได้รับการแต่งตั้งเป็นพระราชาคณะชั้นสามัญฝ่ายวิปัสสนาธุระที่ " พระสังวรวิมลเถร " และต่อมา ปี พ.ศ. 2521 เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ "พระราชสังวราภิมณฑ์"
หลวงปู่โต๊ะ ท่านมีอัธยาศัยงดงาม สุภาพอ่อนโยน มากด้วยเมตตากรุณา ยินดีสงเคราะห์ อนุเคราะห์แก่ผู้อื่น สัตว์อื่น โดยเสมอหน้า ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง เป็นผู้ซื่อตรง ถ่อมตน ยึดมั่นในระเบียบประเพณีและความกตัญญูกตเวที วัตถุมงคลที่ท่านสร้างปและปลุกเสกเป็ฯที่ยอมรับว่ามีพุทธคุณดีเด่นในเรื่องเมตตามหานิยม แคล้วคลาด โชคลาภและอื่นๆ จนได้รับความนิยมทุกรุ่น ไม่ว่าจะออกที่วัดใด
หลวงปู่โต๊ะ ท่านมีสถานที่บำเพ็ญธรรมของท่านอีก 2 แห่ง คือที่สำนักสงฆ์ถ้ำสิงโตทอง อ.จอมบึง จ.ราชบุรี และที่วัดพระธาตุสบฝาง อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ แต่ส่วนใหญ่ท่านจะไปปฎิบัติธรรมที่ถ้ำสิงโตทองมากกว่า
สำหรับสำนักสงฆ์ถ้ำมังกรทองนี้ เมื่อปี พ.ศ. 2509 หลวงปู่โต๊ะได้เดินทางไปจังหวัดกาญจนบุรี ได้ไปพบกับพระมานิตย์เข้าพระมานิตย์พูดกับท่านถึงถ้ำสิงโตทอง ที่อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี และชวนท่านให้ไปชม เมื่อท่านไปแล้วเห็นว่าสถานที่นั้นเป็นที่สงบสมควรแก่นักปฏิบัติธรรม ทั้งอยู่ไม่ห่างไกลกรุงเทพฯ มากนัก ท่านจึงไปอยู่ปฏิบัติธรรมที่ถ้ำสิงโตทองเป็นครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2510 แล้วเริ่มปรับปรุงให้มีความสะดวก เหมาะสมที่จะตั้งเป็นสำนักปฏิบัติธรรม คือได้สร้างกุฏิสำหรับท่านพักหลังหนึ่ง กุฏิเล็กอีกหลายหลัง ตามไหล่เขาข้างถ้ำสิงโตทอง พร้อมทั้งโรงครัวและที่พัก สำหรับลูกศิษย์ที่ประสงค์จะติดตามไปค้างแรมหาความสงบสุข อยู่กับท่าน ท่านได้สร้างพระพุทธบาทจำลอง พระพุทธรูปแบบและปางต่าง ๆ เช่น แบบพระพุทธชินราช พระปางลีลา ปางมารวิชัย กับรูปเจ้าแม่กวนอิม เชิญไปไว้ที่ถ้ำในบริเวณใกล้ ๆ กันนั้นขึ้นอีกหลายแห่ง ได้เชิญพระพุทธรูปที่ผู้มีศรัทธาสร้างถวาย ไปประดิษฐานไว้ให้สักการะกัน ครั้งหลังที่สุดท่านได้สร้างรูปพระสังกัจจายน์นำไปประดิษฐานไว้ที่หน้าถ้ำกลาง ต่อมาถึงปี พ.ศ. 2519 พระมานิตย์ซึ่งรับหน้าที่ดูแลถ้ำสิงโตทองมรณภาพลง ท่านได้ส่งพระรูปอื่นไปดูแลแทน ได้มีผู้ศรัทธาถวายที่ดินเพิ่มให้อีก ท่านจึงวางโครงการก่อสร้างให้เพิ่มเติมอีก จะสร้างโบสถ์ ศาลาการเปรียญ กุฏิ โรงเรียนเด็กสำหรับลูกชาวไร่ สระน้ำ พร้อมกับซื้อที่บริเวณหน้าถ้ำอีก 90 ไร่เศษ รวมกับเนื้อที่เดิมเป็น 140 ไร่ ทำถนนเชื่อมกับถนนส่วนใหญ่ ให้เป็นทางเข้าออกที่สะดวก โดยท่านควบคุมดูแลการดำเนินงานนี้อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งท่าน มรณภาพเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2524 สิริอายุได้ 93 ปี 10 เดือน กับ 22 วัน
ระหว่างที่ท่านมาปฏิบัติธรรมที่ถ้ำมังกรทองนี้ ได้มีการสร้างวัตถุมงคลขึ้นหลายรุ่นและทุกรุ่นได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง ต่อมาเมื่อปี 2538 ได้มีการจัดงานประกาศกิติคุณของหลวงปู่โต๊ะในงาน 108 ปีของท่าน ทั้งที่วัดประดู่ฉิมพลีและวัดถ้ำสิงโตทอง โดยในส่วนของวัดถ้ำสิงโตทองได้จัดสร้างวัตถุมงคลขึ้นหลายแบบ เช่น รูปเหมือน,พระปิดตา ฯลฯ เพื่อเป็นที่ระลึกแก่ผู้มาร่วมงานและบรรดาลูกศิษย์ทั้งหลาย โดยมีเกจิอาจารย์ชื่อดังหลายรูปร่วมในพิธีปลุกเสกซึ่งถือว่าเป็นพิธีใหญ่ที่สุดหลังท่านมรณภาพ
สำหรับรูปหล่อหรือรูปเหมือนที่นำมาประมูลนี้ ออกที่วัดถ้ำมังกรทอง เมื่อปี 2538 ในงาน 108 ปีของหลวงปู่โต๊ะดังกล่าว สภาพสวยงาม คนกริ๊บๆ ใต้ฐานมีอักษรระบุชัดเจน รับประกันพระแท้ |